1. ชุดตรวจสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะที่มีไพริดินอลเป็นองค์ประกอบจากตัวอย่าง ชุดตรวจประกอบรวมด้วย
ก. ส่วนทำปฎิกิริข ประกอบรวมด้วช ชุดเอนไซม์ที่ เ และชุดเอนไซม์ที่ 2 สำหรับเปลี่ยนสารกำจัดศัตรูพืช
ชนิดจำเพาะให้เป็นสารอนุพันธ์ลูซิเฟอริน
ที่ซึ่ง ชุดเอนไซม์ที่ เ เลือกได้จาก ชุดเอนไซม์เอสเทอเรสสำหรับข่อยสลายพันธะเอสเทอร์ และชุด
เอนไซม์อีเทอเรสสำหรับย่อยสลายพันธะอีเธอร์ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือสองอย่างรวมกัน และ
ชุดเอนไซม์ที่ 2 ประกอบรวมด้วย เอนไซม์ดีแฮโลจีเนส เอฟเอดีเอชทูว์ (FADH) ดี-ซิสเตอีน และ
สารละลายบัฟเฟอร์
ข. ส่วนแสดงการเกิดแสง ประกอบรวมด้วย เอน ไซม์ลูซิเฟอเรส สำหรับทำปฏิกิริยากับสารอนุพันธ์ลูซิเฟอริน
ที่ซึ่ง การมีอยู่ของสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะแสดงโดยการเกิดแสง
2. ชุดตรวจสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะที่มีไพริดินอลเป็นองค์ประกอบ ตามข้อถือสิทธิที่ 1 ประกอบรวม
เพิ่มเติมด้วย ชุดรีเอเจนต์สำหรับสกัดสารกำจัดศัตรูพืชเป้าหมายจากตัวอย่างชนิดนอน-ลิควิด (non-liquid
sample) เพื่อเตรียมตัวอย่างที่ต้องการทคสอบให้อยู่ในรูปสารละลาย, ที่ซึ่ง ชุดรีเอเจนต์ ประกอบรวมด้วย
ตัวทำละลายอินทรีย์และสารละลายบัฟเฟอร์ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือสองอย่างรวมกัน
3. ชุดตรวจสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะที่มีไพริดินอลเป็นองค์ประกอบ ตามข้อถือสิทธิที่ เ ที่ซึ่ง ชุดเอนไซม์
เอสเทอเรส ประกอบรวมด้วย เอนไซม์เอสเทอเรส และ สารละลายบัฟเฟอร์
4. ชุดตรวจสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะที่มีไพริดินอลเป็นองค์ประกอบ ตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่ง ชุดเอนไซมั
อีเทอเรส ประกอบรวมด้วย เอนไซม์อีเทอเรส กรดคีโตกคูตาริก และสารประกอบเหล็กที่เลือกได้จาก
แอมโมเนียม เฟอรัส ซัลเฟต, เฟอรัสซัลเฟต และ เฟอร์ริก คลอไรด์
5. ชุดตรวจสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะที่มีไพริดินอลเป็นองค์ประกอบ ตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่ง ความเข้ม
แสงที่เกิดขึ้นถูกนำไปวิเคราะห์เพื่อให้ได้ปริมาณของสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะ
6. ชุดตรวจสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะที่มีไพริดินอลเป็นองค์ประกอบ ตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่ง สารกำจัด
ศัตรูพืชชนิดจำเพาะที่มีไพริดินอลเป็นองค์ประกอบ เลือกได้จาก คลอไพริฟอส (chlorpyrifos) ฟลูร็อกซิพิว
(fluroxypyr) ฟลูร็อกซิพิว-เม็ปทิว (furoxypyr-mepty) ไตร โคลพิว (triclopyr) และ ไตร โคลพิว บิวช็อกซีเอท
ธิวเอสเทอร์ (triclopyr butoxyethyI cster) อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน
7. วิธีการตรวจสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะที่มีไพริดินอลเป็นองค์ประกอบจากตัวอย่าง วิธีการ ประกอบรวมด้วย
ก. การทำปฏิกิริยาของตัวอย่างกับชุดเอนไซม์ที่ 1 และชุดเอนไซม์ที่ 2 เพื่อเปลี่ยนสารกำจัดศัตรูพืชชนิด
จำเพาะที่มีไพริดินอลเป็นองค์ประกอบเป็นสารอนุพันธ์ลูซิเฟอริน
ที่ซึ่ง ชุดเอนไซม์ที่ ! เลือกได้จาก ชุดเอนไซม์เอสเทอเรสสำหรับย่อยสลายพันธะเอสเทอร์ และ ชุด
เอนไซม์อีเทอเรสสำหรับย่อยสลายพันธะอีเธอร์ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือสองอย่างรวมกัน และ
ชุดเอนไซม์ที่ 2 ประกอบรวมด้วย เอนไซม์ดีแฮโลจีเนส ระบบการสร้างเอฟเอดีเอชทูว์ ดี-ซิสเตอีน และ
สารละลายบัฟเฟอร์
ข. การนำสารอนุพันธ์ลูซิเฟอรินที่ได้มาทำปฏิกิริยาด้วยชุดเอนไซม์ที่3 ที่ประกอบรวมด้วย เอนไซม์ลูซิเฟอเรส
และ
ค. การวิเคราะห์การมีอยู่ของสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะจากการเกิดแสง
วิธีการตรวจสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะที่มีไพริดินอลเป็นองค์ประกอบ ตามข้อถือสิทธิที่ 7 ประกอบรวม
เพิ่มเติมด้วย การสกัดสารกำจัดศัตรูพืชเป้าหมายจากตัวอย่างชนิดนอน-ลิควิด (non-liquid sample) เพื่อ
เตรียมตัวอย่างที่ต้องการทดสอบในรูปสารละลายโดยการ ใช้ ชุดรีเอเจนต์ ที่ประกอบรวมด้วย ตัวทำละลาย
อินทรีย์และสารละลายบัฟเฟอร์ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือสองอย่างรวมกัน
9. วิธีการตรวจสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะที่มีไพริดินอลเป็นองค์ประกอบ ตามข้อถือสิทธิที่ 7 ที่ซึ่ง ชุด
เอนไซม์เอสเทอเรส ประกอบรวมด้วย เอนไซม์เอสเทอเรส และ สารละลายบัฟเฟอร์
10. วิธีการตรวจสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะที่มีไพริดินอลเป็นองค์ประกอบ ตามข้อถือสิทธิที่ 7 ที่ซึ่ง ชุด
เอนไซม์อีเทอเรส ประกอบรวมด้วย เอนไซม์อี!ทอเรส กรดอีโตกคูตาริก และสารประกอบเหล็กที่เลือก ได้
จาก แอมโมเนียม เฟอรัส ซัลเฟต, เฟอรัสซัลเฟต และ เฟอร์ริก คลอไรด์
11. วิธีการตรวจสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะที่มีไพริดินอลเป็นองค์ประกอบ ตามข้อถือสิทธิที่ 7 ที่ซึ่ง ระบบ
การสร้างเอฟเอดีเอชทูว์ เลือกได้จาก
ก. ระบบที่ 1 ประกอบด้วย เอฟเอดีเอชทูว์ (FADH,) โดยการนำฟลาวินอะดีนีนไดนิวคลี โอไทด์รูปรีดิวซ์
หรือเอฟเอดีเอชทูว์ (FADH.) มาทำปฏิกิริยาโดยตรง
ข. ระบบที่ 2 ประกอบด้วย เอ็นเอดีเอช (NADH) กลุ่มเอนไซม์ฟลาวินรีดักเทส และเอฟเอดี (FAD) ที่ซึ่ง
เอ็นเอดีเอชทำหน้าที่เป็นตัวรีคิวซ์ (Reducing agent) และสารตั้งต้นของกลุ่มเอนไซม์ฟลาวินรีดักเทส
เพื่อเปลี่ยนเอฟเอดีไปเป็นเอฟเอดีเอชทูว์ (FADH)
ค. ระบบที่ 3 ประกอบด้วย เอนไซม์ จี-6-พีดี (G-6-PD) กลูโคส-6-ฟอสเฟต เอ็นเอดีพลัส กลุ่มเอนไซม์ฟลา
วินรีดักเทส และเอฟเอดี ที่ซึ่ง กลูโคส-6-ฟอสเฟต และเอ็นเอดีพลัส ทำหน้าที่สารตั้งต้นของเอนไซม์
จี-6-พีดี เพื่อที่จะผลิตเอ็นเอดีเอช (NADH) จากนั้นเอ็นเอดีเอช (NADH) ทำหน้าที่เป็นตัวรีดิวซ์
(Reducing agent) และสารตั้งต้นของกลุ่มเอนไซม์ฟลาวินรีดักเทสเพื่อเปลี่ยนเอฟเอดีไปเป็นเอฟอดีเอชทูว์
(FADH,)
ง. ระบบที่ 4 ประกอบด้วย เอนไซม์จีดีเอช (GDH) กลูโคส เอ็นเอดีพลัส กลุ่มเอนไซม์ฟลาวินรีดักเทส เอฟ
เอดี ที่ซึ่งกลูโคส และเอ็นเอดีพลัส ทำหน้าที่สารตั้งต้นของเอน ไซมัจีดีเอช (GDF) เพื่อที่จะผลิตเอ็นเอ
ดีเอช (NADH) จากนั้นเอ็นเอดีเอชทำหน้าที่เป็นตัวรีดิวซ์ (Reducing agent) และสารตั้งต้นของกลุ่ม
เอนไซม์ฟลาวินรีดักเทสเพื่อเปลี่ยนเอฟเอดี (FAD) ไปเป็นเอฟเอดีเอชทูว์ (FADH2) และ
จ. ระบบที่ ร ประกอบด้วย เอนไซม์เอฟดีเอช (PDH) กรคมด เอ็นเอดีพลัส กลุ่มเอนไซม์ฟลาวินรีดักเทส
เอฟเอดี (FAD) ที่ซึ่ง กรดมดและเอ็นเอดีพลัส ทำหน้าที่สารตั้งต้นของเอนไซม์เอฟดีเอช (FDH)
เพื่อที่จะผลิตเอ็นเอดีเอช (NADH) จากนั้นเอ็นเอดีเอชทำหน้าที่เป็นตัวรีดิวซ์ (Reducing agent) และสาร
ตั้งต้นของกลุ่มเอนไซม์ฟลาวินรีดักเทสเพื่อเปลี่ยนเอฟเอดี (FAD) ไปเป็นเอฟเอดีเอษทูว์ (FADH)
12. วิธีการตรวจสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะที่มีไพริดินอลเป็นองค์ประกอบ ตามข้อถือสิทธิที่ 7 ที่ซึ่ง การ
วิเคราะห์การมีอยู่ของสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะเลือกได้อย่างน้อยหนึ่งวิธีจาก
ก. การวิเคราะห์การมีอยู่ของสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะเชิงคุณภาพ โดยการมองเห็นแสงที่เกิดจากการ
ทำปฏิกิริยาของเอนไซม์ลูซิเฟอเรสกับสารอนุพันธ์ลูซิเฟอริน และ
ข. การวิเคราะห์การมีอยู่ของสารกำจัดศัตรูพืชชนิดจำเพาะเชิงปริมาณ โดยการใช้เครื่องมือวัดความเข้มของ
แสงที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาของเอนไซม์ลูซิเฟอเรสกับสารอนุพันธ์ลูซิเฟอริน เพื่อนำความเข้มแสงที่
วัดได้ไปเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ก่อน