รายละเอียดคำขอ

เลขที่คำขอ: 2301003662

17/12/2563
14/06/2566
2301003662A
25/11/2567

เหล็กกล้าที่ได้รับการเคลือบที่มีความต้านทานการแตกร้าวจากไฮโดรเจน
C25D 3/12
อาร์เซลอร์มิททัล
บ็อค, โลเร็ทตา, ชัมซุจโจฮา, เอ็มดี
นายจักรพรรดิ์ มงคลสิทธิ์, นางสาวปรับโยชน์ ศรีกิจจาภรณ์, นายรุทร นพคุณ
ประกาศโฆษณาคำขอรับสิทธิบัตร
DEPCT66
            วิธีการในการผลิตซับสเตรตเหล็กกล้าที่ได้รับการเคลือบ ที่ประกอบรวมด้วยขั้นตอน
ที่จะทำให้มีซับสเตรตเหล็กกล้า; การดำเนินการชุบโลหะด้วยไฟฟ้าให้กับซับสเตรตเหล็กกล้า
ด้วยสารละลายเพื่อการชุบโลหะด้วยไฟฟ้า ที่มี pH เริ่มจาก 2 ถึง 6 และที่มี 100 กรัม/ลิตร ถึง
500 กรัม/ลิตร ของ NiSO4 และ 1 กรัม/ลิตร ถึง 15 กรัม/ลิตร ของ MoS2 โดยการประยุกต์ใช้
ความหนาแน่นกระแสจาก 15 แอมแปร์/ตารางเดซิเมตร ถึง 45 แอมแปร์/ตารางเดซิเมตร ในระหว่าง
30 วินาที ถึง 300 วินาที เพื่อสร้างขั้นที่เป็นสารเคลือบ Ni-MoS2; หลังจากนั้น ทำการชะล้าง
ซับสเตรตเหล็กกล้า และการทำให้แห้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งซับสเตรตเหล็กกล้าที่ได้รับการเคลือบ
DEPCT66
           1. วิธีการในการผลิตซับสเตรตเหล็กกล้า ที่ได้รับการเคลือบที่ประกอบรวมด้วยขั้นตอน
ดังต่อไปนี้ :
           การจัดให้มีซับสเตรตเหล็กกล้า ;
           การดำเนินการชุบโลหะด้วยไฟฟ้าให้กับซับสเตรตเหล็กกล้าด้วยสารละลาย เพื่อการชุบ
โลหะด้วยไฟฟ้า ที่มี pH เริ่มจาก 2 ถึง 6 และที่มี 100 กรัม/ลิตร ถึง 500 กรัม/ลิตร ของ NiSO4
และ 1 กรัม/ลิตร ถึง 15 กรัม/ลิตร ของ MoS2 โดยการประยุกต์ใช้ความหนาแน่นกระแสจาก
15 แอมแปร์/ตารางเดซิเมตร ถึง 45 แอมแปร์/ตารางเดซิเมตร ในระหว่าง 30 วินาที ถึง 300 วินาที
เพื่อสร้างชั้นที่เป็นสารเคลือบ Ni-MoS2 ;
           หลังจากนั้น ทำการชะล้างซับสเตรตเหล็กกล้า และการทำให้แห้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งซับสเตรต
เหล็กกล้าที่ได้รับการเคลือบ
           2. วิธีการตามข้อถือสิทธิที่ 1 ที่ซึ่ง pH ของสารละลาย เพื่อการชุบโลหะด้วยไฟฟ้าจะเริ่มจาก
2 ถึง 5
           3. วิธีการตามข้อถือสิทธิที่ 1 หรือ 2 ที่ซึ่ง ความเข้มข้นของ NiSO4 ในสารละลาย เพื่อการ
ชุบโลหะด้วยไฟฟ้าเริ่มจาก 100 กรัม/ลิตร ถึง 400 กรัม/ลิตร
           4. วิธีการตามข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 3 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่ง ความเข้มข้นของ MoS2 ในสารละลาย
เพื่อการชุบโลหะด้วยไฟฟ้าเริ่มจาก 1 กรัม/ลิตร ถึง 15 กรัม/ลิตร
           5. วิธีการในการผลิตซับสเตรต เหล็กกล้าที่ได้รับการเคลือบ ตามข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 4
ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่ง ซับสเตรตเหล็กกล้าที่ได้รับการส่งไปยังขั้นตอนการชุบโลหะด้วยไฟฟ้าดังกล่าว
นั้น จะเป็นแผ่นเหล็กกล้าที่ผ่านการรีดเย็น ที่ได้มาโดยผ่านขั้นตอนดังต่อไปนี้ :
           การจัดให้มีผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จของเหล็กกล้า ;
           การให้ความร้อนใหม่กับผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จดังกล่าว จนถึงอุณหภูมิที่เริ่มจาก 1000 องศาเซลเซียส
ถึง 1280 องศาเซลเซียส ;
           การรีดผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จดังกล่าว ในช่วงออสเทนนิติก ที่ซึ่ง อุณหภูมิสำเร็จเพื่อการรีดร้อน
ควรจะสูงกว่า 850 องศาเซลเซียส เพื่อให้ได้มาซึ่งแผ่นเหล็กกล้าที่ผ่านการรีดร้อน ;
           การให้ความเย็นกับแผ่นด้วยอัตราการให้ความเย็นเฉลี่ยที่สูงกว่า 30 องศาเซลเซียส/วินาที จนถึง
อุณหภูมิการม้วนซึ่งต่ำกว่า 650 องศาเซลเซียส ; และทำการม้วนแผ่นเหล็กที่ผ่านการรีดร้อนดังกล่าว ;
           การให้ความเย็นกับแผ่นเหล็กที่ผ่านการรีดร้อนดังกล่าวจนมีอุณหภูมิห้อง ;
           อย่างที่เป็นทางเลือก การดำเนินการในขั้นตอน การขจัดตะกรันบนแผ่นเหล็กกล้าที่
ผ่านการรีดร้อนดังกล่าว ;
           อย่างที่เป็นทางเลือก การอบอ่อนจะได้รับการดำเนินการกับแผ่นเหล็กกล้าที่ผ่านการรีดร้อน
ด้วยอุณหภูมิที่เริ่มจาก 400 องศาเซลเซียส ถึง 750 องศาเซลเซียส ;
           อย่างที่เป็นทางเลือก การดำเนินการในขั้นตอน การขจัดตะกรันกับแผ่นเหล็กกล้าที่
ผ่านการรีดร้อนดังกล่าว ;
           การรีดเย็นกับแผ่นเหล็กกล้าที่ผ่านการรีดร้อนดังกล่าว ด้วยอัตราการลดลงที่เริ่มจาก 35 ถึง
90% เพื่อให้ได้มาซึ่งแผ่นเหล็กกล้าที่ผ่านการรีดเย็น ;
           จากนั้น จึงดำเนินการอบอ่อน โดยการให้ความร้อนกับแผ่นเหล็กกล้าที่ผ่านการรีดเย็น
ดังกล่าว ด้วยอัตราการให้ความร้อนที่มากกว่า 2 องศาเซลเซียส/วินาที จนถึงอุณหภูมิการยืนไฟที่เริ่มจาก
Acl ถึง Ac3+ 100 องศาเซลเซียส ซึ่งจะได้รับการคงไว้ในระหว่าง 10 วินาที ถึง 500 วินาที ;
           จากนั้น จึงให้ความเย็นกับแผ่น ด้วยอัตราที่มากกว่า 5 องศาเซลเซียส/วินาที จนมีอุณหภูมิต่ำกว่า
550 องศาเซลเซียส ที่ซึ่ง ในระหว่างการให้ความเย็นกับแผ่นเหล็กกล้าที่ผ่านการรีดเย็นนั้น สามารถจะ
ได้รับการคงไว้ อย่างที่เป็นทางเลือกไว้ที่ช่วงอุณหภูมิที่เริ่มจาก 150 องศาเซลเซียส ถึง 500 องศาเซลเซียส
เป็นเวลาเริ่มจาก 10 ถึง 1000 วินาที เพื่อให้ได้มาซึ่งซับสเตรตเหล็กกล้าที่ผ่านการรีดเย็น ;
           จากนั้น ซับสเตรตเหล็กกล้าที่ผ่านการรีดเย็น จะได้รับการกัดด้วยกรดในระหว่าง 5 วินาที
ถึง 100 วินาที ณ ช่วงอุณหภูมิที่เริ่มจาก 30 องศาเซลเซียส ถึง 100องศา
           6. ซับสเตรต เหล็กกล้าที่ได้รับการเคลือบที่ได้รับการผลิตตามวิธีการตามที่ได้อ้างสิทธิ
ในข้อถือสิทธิที่ 1 ถึง 5 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่ง ขั้น Ni-MoS2 จะมีความหนาอย่างน้อยที่สุด 0.1 ไมครอน
และอย่างน้อยที่สุดจะมี 0.3% โดยร้อยละโดยน้ำหนักของอนุภาค MoS2
           7. ซับสเตรต เหล็กกล้าที่ได้รับการเคลือบตามข้อถือสิทธิที่ 6 ที่ซึ่ง ขั้น Ni-MoS2 จะมี
ความหนาอย่างน้อยที่สุด 0.2 ไมครอน
           8. ซับสเตรต เหล็กกล้าที่ได้รับการเคลือบ ตามข้อถือสิทธิที่ 6 หรือ 7 ที่ซึ่ง ขั้น Ni-MoS2
อย่างน้อยที่สุดจะมี 0.4% โดยร้อยละโดยน้ำหนักของอนุภาค MoS2
           9. ซับสเตรต เหล็กกล้าที่ได้รับการเคลือบ ตามข้อถือสิทธิที่ 6 ถึงข้อถือสิทธิที่ 8 ข้อใดข้อหนึ่ง
ที่ซึ่ง อัตราส่วนการแตกร้าวจากไฮโดรเจนของซับสเตรต เหล็กกล้าที่ได้รับการเคลือบดังกล่าว
จะน้อยกว่า 30%
           10. ซับสเตรต เหล็กกล้าที่ได้รับการเคลือบ ตามข้อถือสิทธิที่ 6 ถึง 9 ข้อใดข้อหนึ่ง ที่ซึ่ง
ซับสเตรตเหล็กกล้าที่ได้รับการเคลือบ จะเป็นแผ่นเหล็กกล้าที่ผ่านการรีดเย็นที่ประกอบรวมด้วย
ธาตุ ดังต่อไปนี้ ที่ได้แสดงเป็นร้อยละโดยน้ำหนัก :
                                        0.05 % น้อยกว่าหรือเท่ากับ C น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.5 %;
                                        0.2 % น้อยกว่าหรือเท่ากับ Mn น้อยกว่าหรือเท่ากับ 5 %;
                                        0 .1% น้อยกว่าหรือเท่ากับ Si น้อยกว่าหรือเท่ากับ 2.5 %;
                                        0 .01% น้อยกว่าหรือเท่ากับ Al น้อยกว่าหรือเท่ากับ 2 %;
                                        0% น้อยกว่าหรือเท่ากับ S น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.09%;
                                        0.002% น้อยกว่าหรือเท่ากับ P น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.09%;
                                        0% น้อยกว่าหรือเท่ากับ N น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.09%;
           และสามารถมีธาตุหนึ่งชนิด หรือมากกว่านั้นของธาตุที่เป็นทางเลือกดังต่อไปนี้
                                        0% น้อยกว่าหรือเท่ากับ Cr น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1 %;
                                        0% น้อยกว่าหรือเท่ากับ Ni น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1%;
                                        0% น้อยกว่าหรือเท่ากับ Cu น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1%;
                                        0% น้อยกว่าหรือเท่ากับ Mo น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.5%;
                                        0% น้อยกว่าหรือเท่ากับ Nb น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.1%;
                                        0% น้อยกว่าหรือเท่ากับ Ti น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.1%;
                                        0% น้อยกว่าหรือเท่ากับ V น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.1%;
                                        0% น้อยกว่าหรือเท่ากับ B น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.003%;
                                        0% น้อยกว่าหรือเท่ากับMgน้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.010%;
                                        0% น้อยกว่าหรือเท่ากับ Zrน้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.010%;
                                        0.001% น้อยกว่าหรือเท่ากับ Caน้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.005%;
           โดยที่ องค์ประกอบที่เหลือจะได้รับการประกอบขึ้นด้วย เหล็กและสารเจือปนที่เลี่ยงไม่ได้
ที่เกิดจากการดำเนินกรรมวิธี
           11. ซับสเตรตเหล็กกล้าที่ได้รับการเคลือบ ตามข้อถือสิทธิที่ 6 ถึง 10 ข้อใดข้อหนึ่ง
ที่ซึ่ง ซับสเตรตดังกล่าว จะมีความต้านทานแรงดึงสูงสุดเป็น 900 เมกะพาสคัล หรือมากกว่านั้น
และความแข็งแรงครากที่เป็น 700 เมกะพาสคัล หรือมากกว่านั้น
           12. การใช้ซับสเตรตเหล็กกล้าที่ได้รับการเคลือบที่สามารถได้มา ตามวิธีการของข้อที่ 1 ถึง 5
ข้อใดข้อหนึ่ง หรือซับสเตรตเหล็กกล้าที่ได้รับการเคลือบ ตามข้อถือสิทธิที่ 6 ถึง 11 ข้อใดข้อหนึ่ง
สำหรับการผลิตชิ้นส่วนเชิงโครงสร้างของยานพาหนะ
© 2024 DIP